The Circle of Spirits

Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: พลังการรับรู้ล่วงหน้า ในศิลปะการต่อสู้


ผู้เยี่ยมยุทธ

Status: Offline
Posts: 119
Date:
พลังการรับรู้ล่วงหน้า ในศิลปะการต่อสู้


เขียนโดย Zarutobi(สมาชิกคนหนึ่งในบอร์ดนี้)

ลังเลอยู่นานครับ ที่จะเล่าเรื่องนี้

สมองมนุษย์ มีความสามารถ ในการรับรู้ล่วงหน้า ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือที่หลายคน เรียกว่าลางสังหร

ลางสังหร เป็นสิ่งที่คนทั่วไป รับรู้ว่า มันคือ สัมผัสที่ 6 ซึ่งอยู่นอกเหนือ ประสาทสัมผัสที่เป็นรูปธรรมทั้ง 5 ที่เราท่าน รู้กันดีอยู่แล้ว แต่ลางสังหร ในศิลปะการต่อสู้ ถูกเรียกในหลายชื่อ เช่นจิตรับรู้ การรับรู้ล่วงหน้า สัมผัสธรรมชาติ ปฏิกริยาตอบสนองอันว่องไว ฯลฯ แล้วแต่จะเรียกครับ เพราะมันคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่อาจจะอยู่ในรูปแบบที่ต่ายกันออกไป

ตัวอย่างครับ เมื่อฝึกฝน ลับประสาท จนแหลมคม จิตรับรู้เหตุการล่วงหน้า จะชัดจนสามารถทำเช่นนี้ได้



อาจจะดูเหมือนเตี๊ยมคับ เพราะดูเหลือเชื่อ แต่นี่เป็นการสอบขึ้น 5 ดั้ง ของสำนักวิชาต่อสู้โบราณสำนักนึง ในวิชาอื่น ผู้ที่ทำเช่นนี้ได้ เป็นพวกครูมวยระดับสูง หรือในหลายวิชา (เกือบทั้งหมดนั่นแหละ) ไม่สามารถรับรู้ล่วงหน้าเช่นนี้ได้

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งเหลือเชื่อเกินจริงครับเพราะพวกเราเอง ก็สามารถรับรู้ได้เช่นนี้กันทุกคน เป็นสัญชาติญาณที่รับรู้ด้วยไขสันหลังเลยทีเดียว

ผมเคยถามอาจารย์ไทยคนนึง ที่ทำเช่นนี้ได้(อย่าคิดว่าเป็นมวยไทยครับ เพราะไม่ใช่) ว่าทำได้อย่างไร เค้าตอบว่า หลับตาสิ ............ แล้วผมก็เสียววาบที่ตรงหว่างคิ้ว พอลืมตา เห็นอาจารย์ เอาปากกา ปลายแหลม มาจี้แถวหว่างคิ้ว (ห่างสัก 2 เซน) อาจารย์ถามว่า รู้สึกยังไง ผมตอบ เสียววาบ ๆ ครับ "นั่นแหละครับ" ผมเลยถึงบางอ้อ ว่า ทุกคน มีจิตรับรู้กันทุกคน

คราวนี้ มาพูดถึงการรับรู้ล่วงหน้า
ไม่ใช่เฉพาะ วิชานี้(ในคลิ๊ป) แต่จริง ๆ ทุกวิชา มีการฝึกการรับรู้ล่วงหน้ากันอย่างจริงจัง โดยที่ไม่รู้ตัว

ไม่ใช่แค่วิชาป้องกันตัวนะครับ แต่รวมไปถึงนักบินเรื่องบินรบ นักขับ F1 นักกีฬา ฯลฯ การรับรู้ล่วงหน้า ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยไม่รู้ตัว

ยกตัวอย่างนะครับ วันก่อนผมดูสารคดีทางช่อง 9 เกี่ยวกับความลับของนักกีฬา โดยเอานักกีฬา มาทดสอบในเรื่องต่าง ๆ นักกีฬาเหล่านั้นสามารถรับรู้ได้เร็วกว่าคนทั่วไป เกือบ .5 วินาที ซึ่งจะสร้างความแตกต่าง กับผลการแข่ง อย่างชัดเจน

ขอยกตัวอย่างนักขับรถ F1 ที่มาเป็นตัวอย่างในรายการ เขาสามารถตอบสนองได้เร็วถึง 1 ใน 1,000 วินาที แต่ระบบประสาทของมนุษย์ จะมีช่วงที่ส่งคำสั่ง จากตาสู่สมอง สมองสั่งการ ให้ร่างกายตอบสนองขั้นตอนดังกล่าว ใช้เวลา 0.5 วินาที นั่นหมายความว่า คำสั่งจากสมอง ให้ร่างกาย ตอบสนอง ของนักขับรถ F1 สั่งการก่อนที่ตาจะมองเห็น อาจจะงงนะครับ ว่า 1 ใน 1000 วินาที มันจะเร็วสักแค่ใหน ก็คิดง่าย ๆ คับ ถ้าถ่ายภาพวีดีโอ ความเร็ว 1000ภาพต่อวินาที เราจะเห็นกระสุน ค่อย ๆ ออกจากปากกระบอกปืนอย่างชัดเจน จนแมลงวันเกาะกระสุนได้เลย

ผมเคยได้ยินมาครับ ว่ามีปรมาจารย์ ที่หลบกระสุนได้อยู่ 2 คน คนนึงคือ โมริ เฮย์ ผู้บัญญัติไปคิโด้ขึ้นมา กับอีกคนคือ พยักฆ์แห่งมองโกเลีย โทชิสุกุ ทากามะซึ ผู้สือทอดวิชานินจุทสึลำดับที่ 33(ที่คนไทยเรียกว่าวิชานินจาน่ะ)

การฝึกประสาทการรับรู้ล่วงหน้ามีฝึกอย่างเป็นล่ำเป็นสันในศิลปะการต่อสู้โบราณที่มีอายุมากกว่า1,000 ขึ้นไป อาจจะเพราะถูกขัดเกลาตัววิชามาหลายชั่วอายุคน แลวิชาโบราณเอง ก็เน้นที่การขัดเกลาจิตใจ ของผู้ฝึก มากกว่าพัฒนากล้ามเนื้อเช่นปัจจุบัน

ในอินเดียมีวิชาต่อสู้โบราณเป็นของตัวเองชื่อ คารารี่เป็นวิชาที่โบราณที่สุดในโลก (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) ก็มีการพัฒนาประสาทการรู้ โดยไม่ใช้ประสาทตา เพื่อหลบการโจมตีจากทางด้านหลังเช่นกัน

สำหรับวิธี อยากจะบอกว่า มันไม่ตายตัวน่ะคับ เอาเป็นที่ผมพอจะรู้มาแล้วกัน มี 2 เรื่องที่ต้องทำครับ

1. ไปหาฝึกวิชาป้องกันตัว วิชาอะไรก็ได้ แต่ขอแนะนำว่า ไม่ควรเป็นมวยไทย หรือเทควันโด้ หรือวิชาอะไรที่เป็นมวยแข็ง ควรจะเป็นมวยอ่อน(ความหมายมวยแข็ง มวยอ่อน ลองไปหาเองนะครับ)แล้วฝึกไปเลยครับ ไม่ต้องรีบนะ เพราะคุณจะไม่มีทางเป็น ภายใน เดือน2เดือน แต่พอผ่านไปสักครึ่งปี คุณจะรุสึกประสาทโต้ตอบไวขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับหลบการโจมตีจากข้างหลังได่เหมือนในคลิ๊ปที่เอามาโชว์นะครับ อันนั้นชั้นสูง ใช้เวลาหลายปี

2.อันนี้สำคัญ แต่ไม่ค่อยมีใครทำ คือนั่งปล่อยวาง
เอาเป็นว่านั่งสมาธิก็ได้ แต่อย่างเพิ่งสมาธิจดจ่อนะครับ แต่เป็นการปล่อยวาง ให้หัวว่าง ยิ่งว่างยิ่งดี ไม่ต้องคิดอะไรเลย(ยากนะครับ)

หลักคือ นั่งหลับตา แล้วปล่อยให้หัวว่าง ให้ขาวโพลนเลยยิ่งดี

พอทำ 2 เรื่องนี้(อันที่ 2 นี่สำคัญมากครับ) สักพัก(ใหญ่ มาก ๆ) อาจฝึกสัก 5ปี หรือบางคน อาจจะถึง 10 ปี มีพระบางรูป(บางรูปจริง ๆ นะ) ฝึกกรรมฐาน ปล่อยวางมาเกือบครึ่งชีวิต ก็มีความสามารถแบบนี้เหมือนกันครับ คือ มีคนเดินเข้ามาในอาณาเขต ที่ตัวเองกำหนด ก็จะรับรู้ได้ ว่ามีคนเข้ามา ทั้งที่ไม่ได้ยินเสียง และมองไม่เห็น(เหมือนอับดุลเลยแหะ)เอาเป็นว่า 2 เป็นคีย์ครับ ส่วน 1 เป็นตัวเร่ง ยิ่งหาวิชาดี ๆ ยิ่งเร่งให้รับรู้ได้ดี และเร็วขึ้น จาก 50 ปี ก็หรือ 10ปี (555 ยังนานอยู่ดีเนอะ) แต่ขอบอกเลยนะครับ ว่า บางคน ฝึกวิชาป้องกันตัว แบบฝึกไปงั้น ๆ อันนี้บอกเลยครับ ว่า นอกจากไม่พัฒนาแล้ว ยังปิดกั้นตัวเองด้วย

เมื่อเช้า พูดถึงว่าควรหาอะไรฝึกใช่ใหมครับ ผู้อ่าน คงคิดว่า แล้วจะให้ตูฝึกอะไรฟะ ผมเลย คิดว่าควรมาแนะนำว่ามีวิชาใหนบ้าง ที่ควรฝึก

วิชาแรกเลยครับ บูโด ไทจุทสึวิชาว่าด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายใช้ธรรมชาติ ในการต่อสู้ เป็นวิชาที่ว่าด้วยความเข้าใจตัวเอง และผู้อื่น วภูมิปัญญาที่เกิดจากไฟสงครามของแดนซามูไร เปิดสอนให้หน่วยงาน ทหารตำรวจ ทั่วโลกมากมาย แต่กระนั้น วิชานี้ ก็เป็นเหมือนภาพมายา เพราะตัววิชาที่ลึกจนต้องฝึกเกินความเข้าใจ ต้องใช้ทั้งชีวิต ในการฝึกฝน แลอีกประการที่วิชานี้เป็นเหมือนภาพมายาคือ หาเรียนยากครับ คนที่มีสิทธิ์เปิดโรงฝึกอย่างเป็นทางการ ในโลก มีแค่ 2000กว่าคน(แถมหลายคนไม่เปิดสอนด้วย) สำนักที่เปิดสอน คือ บูจินกันบูโดไทจุทสึ ภาพการทดสอบหลบดาบที่ฟันจากด้านหลัง(คลิ๊ปข้างต้น) ก็สำนัก บูจินกันนี่แหละครับ

ในไทย ก็ดูในเว็บนี้เลยครับ http://www.thaibudo.com

วิชาที่2 ยูยิตสูครับ เป็นวิชาที่ว่าด้วยการใช้อ่อนสยบแข็งเข้นเดียวกับ ไอคิโด้ แต่จะมีความก้าวร้าวกว่าเพราะเป็นวิชาที่เกิดขึ้นจากไฟสงครามเช่นกัน วิชานี้ มีหลายสายมากครับ ที่หลงเหลือจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นต่างประเทศหาเรียนง่ายกว่า บูจินกันเยอะครับ แต่ถ้าในไทย ก็พูดว่าหาเรียนยากเชียวละ
ตอนนี้ผมรู้แค่ที่เดียว เป็นสปอร์ท ยูยิตสู(คือยูยิตสู ที่เป็นกีฬาครับ) แต่คนสอน เก่งเชียวละครับ ลองเข้าไปดูได้นะที่เว็ป http://jujitsu-thailand.com/jujitsu.html

วิชาที่3 ไอคิโด้ วิชาที่ว่าด้วยการใช้อ่อนสยบแข็ง และไม่ทำร้ายศัตรูจนเกินกว่าเหตุ เป็นวิชาที่ว่าด้วยความรัก(แต่ชื่อใช้อักษร ใช้คนละตัวกับไอที่แปลว่ารักนะ) เป็นวิชาที่ว่าด้วยอุดมคติ การจะใช้สู้จริงค่อนข้างยาก แต่ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้นะ เป็นวิชาที่ร้ายกาจวิชานึงเลย แต่คงไม่ต้องแนะนำเท่าไหร่ เพราะมีเปิดสอนเยอะ หาเรียนไม่ยากเท่าไหร่ครับ
ก็ไปตามมหาลัย หายที่ ก็มีสอนอยู่ ส่วนใหญ่ จะใช้ที่เดียวกับยูโดนั่นแหละ

วิชาที่ 4 ไทจี่ฉวน หรือที่บ้านเราเรียกว่าไทเก็ก เอาวิชาสายญี่ปุ่นมาเยอะแล้ว คราวนี้ มาดูวิชาสายจีนมั่งครับ วิชาไทจี่ เป็นวิชาโบราณวิชานึง ส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้ฝึก และเข้าใจในธรรมชาติ เข้าใจพลัง และก็เข้าใจตัวเอง ถ้าสนใจ สามารถหาเรียนได้ที่ สวนลุมครับ หรือตามสวนสาถารณะทั่วไป แต่ เท่าที่ผมดู อาจจะได้ผลน้อยกว่าที่ควรนะ คงต้องฝึกเยอะหน่อย

วิชาที่5 คาราลี่..... คิดไปคิดมา วิชานี้ ในไทยไม่มีเปิดสอนแหะ เหอะ ๆ


ตอนนี้ ผมนึกออกเท่านี้คับแต่ไว้ผมนึกออกเพิ่ม จะมาอัพเดทเพิ่มครับ

คราวนี้ ผมมาคุยเรื่องวิชาที่ ไม่แนะนำ ไม่ใช่วิชาไม่ดีนะครับ แต่วิชาค่อนข้างไม่เสริมการใช้สัญชาติญาณด้านนี้ ได้แก่วิชาสายแข็งทั้งหลาย

วิชาแรกเลย มวยไทย เหอะ วิชาสายแข็งที่ว่ากันว่าเป็นมวยยืนที่แกร่งที่สุดในโลก(มวยไทย มรดกไทย มรดกโลก) วิชาโบราณ ที่มีประวัติวิชายาวนานถึง 800ปี อันเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวไทย แต่ถ้าดูนะครับ จะเห็นว่าเค้ายืนรับอาวุธกันเลย สาเหตุเพราะมวยไทย รู้ดีครับ ว่าขั้นตอนการสั่งงาน จากสมองให้ร่างกายมีปฏิกิริยา ต้องใช้เวลา 0.5 วินาที การออกอาวุธ นั้นเร็วกว่า จริงใช้วิธีสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งแทน เพื่อรับการโจมตีได้ภายในเวลาที่เหลืออยู่ จึงเป็นวิชาที่ไม่เสริมการใช้จิตรับรู้

วิชาที่2 เทควันโด้ วิชานี้ กลายเป็นกีฬาไปโดยสมบูรณ์แบบครับ เลยค่อนข้างจะต่างกับการต่อสู้กันจริง ๆ แต่ถ้ามีทักษะพอ สามารถใช้ในการต่อสู้จริงได้นะ ผมยืนยัน ตัววิชา ยังคงความร้ายกาจ แต่ผู้ฝึก มุ่งที่จะเป็นนักกีฬาเท่านั้นเอง

วิชาที่ 3 คาราเต้ วิชาการต่อสู้มือปล่าวที่ทรงพลังที่สุด คู่ปรับตลอดการของมวยไทย เหตุผลคล้าย ๆ มวยไทยครับ เป็นวิชาสายแข็งที่แกร่งจริง ๆ แต่ไม่เสริมด้านนี้

วิชาที่ 4 ยูโด คนที่รู้ประวัติ คงร้องเฮ้ย เพราะยูโด ถูกพัฒนามาจากยูยิตสู โดยตัดลูกอันตรายออกไป แต่ในยุคปัจจุบัน เน้นการสร้างพลังให้เหนือกว่าคู่แข่ง ตามแบบของกีฬา ซึ่งต่างจากยูยิตสู

คิดออกแค่นี้ครับไว้นึกออกเพิ่ม จะมาอัพนะ

แต่ผู้ที่ฝึกวิชาเหล่านี้อยู่ อย่าเพิ่งเกลียดขี้หน้าผมนะ เพราะผมไม่ได้บอกว่าวิชาใหนดีกว่าวิชาใหน ผมเคารพทุกวิชา ว่าเป็นภูมิปัญญาของมนุษยชาติ ที่ควรอนุรักษ์ไว้ และใช่ว่าผู้ฝึกวิชาสายแข็งจะไม่มีทางมีพลังการรับรู้ล่วงหน้านะ แค่ผมบอกว่า วิชาสายแข็ง ไม่ได้เสริมการฝึกการรับรู้ล่วงหน้าเท่านั้นเอง

__________________
เย็น กรอบ และเร็ว


ผู้สนใจ

Status: Offline
Posts: 16
Date:

เรื่องยาว มาก ผมก็เชื่อนะ ว่ามีจิตสังหร อยู่ อิอิ วิชาสายถึถสินะ มวยไทย

-- Edited by thanakom03 at 09:19, 2009-01-29

__________________
โลกเป็นโลก


ผู้สนใจ

Status: Offline
Posts: 24
Date:

พออ่านแล้วก็ขำตัวเองพอดูคับ ที่ผมเองก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ อย่างในคลิ๊ปนี่ยอมรับว่า อีกนานครับno

แต่ก็มีหลาอย่างที่ผมทำได้ และกำลังเขียนอยู่ ไว้เขียนเสร็จอย่าลืมติดตามอ่านนะbiggrin


__________________


ผู้ช่วยจอมเวทย์

Status: Offline
Posts: 67
Date:

จะเพียรพยายามลองฝึกดูค่ะ ^^"

__________________

อะไรที่ไม่ใช่ของเรา จะทำยังไงมันก็ไม่ใช่เรา..

แต่อะไรที่เป็นของเรานี่สิ ยังไงมันก็เป็นของเราอยู่ดี

Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.



Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard