คาฉะ (ปิศาจกรงล้อเพลิง) มันเป็นปิศาจที่มีรูปร่างเป็นอสูรร้ายน่าเกลียดน่ากลัว และที่เท้าทั้งสองข้างของมันนั้นเป็นกรงล้อไฟที่หมุนติ้วอยู่ตลอดเวลา คาฉะนั้นเป็นผีที่ชอบขโมยศพคนตาย ในงานพิธีศพของชาวญี่ปุ่นโบราณนั้น ในห้องศพที่รอการสวดทำพิธีจะมีผู้เฝ้าศพและเทียนพิธีศพตั้งไว้ และผู้ที่เฝ้าศพจะต้องคอยระมัดระวังดูแลเทียนนั้นไว้ให้ดีอย่าให้ดับ เพราะถ้าเทียนดับแล้วเชื่อกันว่าคาฉะจะเข้าสิงศพผู้ตายหลอกหลอนให้ผู้เฝ้าศพตกใจกลัวพากันวิ่งเตลิดไป ส่วนมันก็จะกัดกินศพจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกและพาดวงวิญญาณไป(ชั่วร้ายจริงๆ)
รูปร่างลักษณะ ร่างกายเป็นปิศาจร้าย แต่ที่ขาทั้งสองข้างจะมีกรงล้อไฟหมุนอยู่ตลอดเวลา
สถานที่ปรากฏตัว ที่ๆมีคนตายและสถานที่ๆจัดพิธีศพ
สิ่งที่ชอบเลือด เนื้อ วิญญาณของผู้ตาย
สิ่งที่เกลียด ยันต์ เครื่องลาง ของขลัง
อุว้ง (ปิศาจเสียงสะท้อน) ปิศาจตนนี้มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ตัวสูงโย่งเหมือนเปรต ตากลมโต ศีรษะล้านและมีกรงเล็บแหลมคม มันมักจะปรากฏตัวตามป่าช้าหรือกำแพงวัดร้างยามดึกดื่นค่อนคืน และหากมีผู้คนเดินผ่านมามันก็จะคอยแอบซุ่มอยู่ในความมืดมิด พลางส่งเสียงร้องประหลาดๆว่า อุว้ง อุว้ง อุว้ง ...คล้ายๆกับเสียงนกร้อง และถ้าผู้ใดรู้ตัวดีแล้วว่าถูกเจ้าผีนี้หลอกเอา เขาผู้นั้นจะต้องขานรับเสียงมันไปเท่ากับจำนวนที่มันร้องมา ถ้ามันร้อง อุว้ง เขาก็จะต้องตอบรับ อุว้ง และแล้วมันก็จะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ มันจะเร่งสปีตเสียงอุว้งนั้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนผู้ที่ขานรับเสียงนั้นตอบไม่ทัน และแล้วเมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะปรากฏกายออกมาจากหลังกำแพงหรือความมืด แล้งเข้าตะปปร่างนั้นกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่เหลือซาก.
รูปร่างลักษณะ ลำตัวผอมแห้งและสูงโย่ง ศีรษะล้าน ตาแดงกลมโตและมีกรงเล็บแหลมคม
สถานที่ปรากฏตัวยามดึกสงัดตามกำแพงวัดร้างหรือสุสานเก่า
สิ่งที่ชอบ เลือด เนื้อของมนุษย์(เหยื่อคงจะเป็นผู้ที่ตอบคำไม่ทัน)
สิ่งที่เกลียดยันต์ เครื่องลาง ของขลัง
คิตสุเนะ (ปิศาจจิ้งจอก) ชาวญี่ปุ่นโบราณมักมีความเชื่อเสมอว่าสุนัขจิ้งจอกตนใดที่มีอายุเกิน100ปีขึ้นไปสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นจะกลายเป็นปิศาจจิ้งจอก และปิศาจจิ้งจอกมักจะแปลงกายมาสร้างความวุ่นวายให้กับชาวบ้านอยู่เสมอ ปิศาจจิ้งจอกนั้นสามารถสร้างภาพที่เคลื่อนไหวต่างๆให้เป็นภาพลวงตาไว้คอยกลั่นแกล้งคนที่เดินทางผ่านป่าตอนกลางคืนได้ และมีตำนานที่เล่าถึง อนเมียวโคคุบงคิวบิ หรือ ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง หนึ่งในผีๆชื่อดังของญี่ปุ่นอีกดกุนเองก้ได้ถูกมนต์เสน่ห์ของนางจนลุ่มหลงมัวเมา นางปิศาจคอยยุยงให้จักรพรรดิ์ก่อสงครามทำลายมนุษย์ด้วยกันเองมากมาย แต่ในที่สุดโชกุนได้พบกับนักบวชผู้หนึ่ง นักบวชบอกว่าแท้จริงแล้วสนมเอกเป็นนางผีจิ้งจอกแปลงกายมา เมื่อรู้ความจริงแล้วนางปิศาจจิ้งจอกก็ได้เผยร่างจริงออกมาเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่สีทองอร่าม สูงเท่ากำแพงวังจักรพรรดิ์ และมีเก้าหาง จิ้งจอกเก้าหางได้หนีไป ทางโชกุนเองก็ได้ส่งกองทหาร 15000 คน ตามไปต่อสู้กับนาง มาจนถึงหุบเขาเมียวโค นางจิ้งจอกเก้าหางได้สู้กับกองทหาร ท้ายสุดนางก้พ่ายแพ้ไปและร่างกายสลายกลายเป็นหินก้อนหนึ่งเรียกว่าหินฟุโยเคอิ(หินชีวีสังหาร) ซึ่งวันดีคืนดีหินนั้นจะปล่อยแก๊ซพิษออกมาคร่าชีวิตชาวบ้านแถวนั้นซึ่งสถานที่ๆกล่าวมานั้นในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดนิงาตะ และหินฟุโยเคอินั้นก็ยังคงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้
รูปร่างลักษณะ เป็นสุนัขจิ้งจอกขนทองอร่ามทั้งตัว ตัวใหญ่ และมีหางถึงเก้าหาง.
สถานที่ปรากฏตัวแต่เดิมนางอยู่ที่หุบเขาใดไม่มีใครทราบ แต่เริ่มเข้ามาก่อกวนในราชสำนักเมื่อประมาณ คศ.1200 -ถูกปราบในปี คศ.1203
สิ่งที่ชอบ พลังวิญญาณของมนุษย์
สิ่งที่เกลียดเครื่องลาง ของขลัง และยันต์ (สิ่งของพวกนี้อาจทำลายนางไม่ได้แต่ก้ปกป้องตนเองให้รอดพ้นจากนางได้)
วาไรอนนะ (ภูติแห่งเสียงหัวเราะ) วาไรอนนะเป็นปิศาจหัวเราะ นางเป็นคนอารมณ์ดีมากเรียกได้ว่าขำได้ทั้งวันทั้งคืน เจอใครก็ขำ ใครทำอะไรก็ขำ ซึ่งเมื่อใครบังเอิญได้พบเจอเธอเข้าเธอจะไม่ทำร้ายเหมือนผีตัวอื่นๆ แต่นางจะมีพลังบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดเราชักชวนเราให้มีเสียงหัวเราะขำขันอารมณ์ดีไปกับนาง ซึ่งเมื่อใครได้บังเอิญหัวเราะไปกับนางเขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีความสุขในชีวิต มีความหวังที่ดีที่จะใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานนับว่านางเป็นผีที่ดีมาก แต่ที่มาของนางนั้นช่างน่าเศร้า เรื่องมีอยู่ว่าที่วังจักรพรรดิ์มีองค์หญิงอารมณ์ดีคนหนึ่ง นางผู้นั้นมักจะมานั่งยิ้มนั่งหัวเราะกับเงาตัวเองในหน้ากระจกก่อนนอนทุกขึ้น และเมื่อนางผู้นั้นเมื่อเดินผ่านไปทางใดก็จะทำให้เกิดเสียงหัวเราะและรอยยิ้มกับคนรอบข้างเสมอ แต่ต่อมาภายหลังนางกลับป่วยขึ้นอย่างกระทันหัน แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังไม้ละทิ้งเสียงหัวเราะ ที่ทำให้มีความสุขแม้กระทั้งหมอกับคนที่มาเฝ้าไข้ ต่อมาไม่นานนักเธอก็ตาย และด้วยดวงวิญญาณที่มีแต่ความสุขนี้นางเลยกลายมาเป็นภูติแห่งเสียงหัวเราะ คอยสร้างความสุขให้กับผู้ที่มีความทุกข์ตลอดมา.
รูปร่างลักษณะ วาไรอนนะนั้นรูปร่างเป็นหญิงสาวใส่ชุดมือนแปะยิ้มและเธอก็จะเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นอะไรที่ตลกได้มากกว่านี้เพื่อคนที่มีความทุกข์
สถานที่ปรากฏตัว เธอสามารถปรากฏตัวได้ทุกที่ และที่ที่มีผู้ที่มีความเศร้าใจและสิ้นหวังเธอจะไปคอยปลอบโยน(ถ้าคนผู้นั้นไม่เผ่นแนบไปซะก่อน)
สิ่งที่ชอบ เสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความหวังของมนุษย์
สิ่งที่เกลียด ความสิ้นหวัง ความเสียใจและเสียงร้องไห้.
ตันมะโมะเม็ง (ปิศาจผ้าขาว) ปิศาจตนนี้แต่เดิมเป็นผ้าขาวที่ชาวญี่ปุ่นโบราณไว้ใช้ห่อศพคนตาย การที่มีวิญญาณผีร้ายมาเข้าสิงผ้าขาวนั้นอาจเป็นเหตุให้เกิดตันมะโมะเม็งก็ได้ โดยปกติแล้วมันมักจะล่องลอยมาจากฟากฟ้ายามค่ำคืนเป็นผ้าสีขาวๆยาวๆปลิวว่อนสยายยามเมื่อลมกลางคืนพัด เมื่อพบเห็นเหยื่อมันก็จะโผใช้ผ้าเข้ารัดคอจนคนๆนั้นหน้าขาวซีดขาดใจตายทันที และแล้วมันก็จะห่อตัวเอาวิญญาณคนตายนั้นลอยขึ้นฟ้าหายไป ตันมะโมะเม็งนั้นเป็นผีที่ร้ายกาจมาก และความร้ายกาจของมันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นถ้ามันได้สะสมวิญญาณของตายไว้มากด้วย ตันมะโมะมเงนั้นเกลียดกลัวไฟ เพราะไฟเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ร่างทั้งร่างและดวงวิญญาณของมันนั้นมอดไหม้เพียงไม่มีพริบตาได้...
รูปร่างลักษณะ เป็นผ้าสีขาวๆยาวๆ ที่มีใบหน้าและดวงตาอยู่บนผ้า และล่องลอยไปมายามค่ำคืน
สถานที่ปรากฏตัว พบมากที่สุดที่แถบภูเขาหรือป่าลึก ยามค่ำคืนจะปรากฏกายออกมาหาเหยื่อ
สิ่งที่เกลียด ไฟ ความร้อน เครื่องลาง ของ
อะไรที่ไม่ใช่ของเรา จะทำยังไงมันก็ไม่ใช่เรา..แต่อะไรที่เป็นของเรานี่สิ ยังไงมันก็เป็นของเราอยู่ดี
วาราชิ ซาซิกิวาราชิ(ผีบ้านผีเรือน) ในบ้านทุกหลังล้วนต้องมีผู้ปกปักรักษาที่มองไม่เห็น ซึ่งซาซิกิวาราชินี้เป็นผีบ้านผีเรือนของชาวญี่ปุ่น โดยปกติจะคอยสิงสถิตอยู่ใต้หลังคาบ้านไม่ให้ผู้คนได้เห็นตน แต่ส่วนมากจะปรากฏกายเป็นเด็กผู้ชายผูกผมจุก2ข้าง(คล้ายๆกับกุมารจีน) และถ้าเป็นผีผู้หญิงเราเรียกว่าซาซิกิวาราชิ ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวหน้าตาน่ารักแต่งชุดกิโมโนแทน ซึ่งผีบ้านผีเรือนพวกนี้มักจะปรากฏตัวยามค่ำคืนที่ผู้คนในบ้านนอนกันหมดแล้ว เขาเหล่านั้นจะมาคอยดับตะเกียงที่เจ้าของลืมดับไว้ มาคอยปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาด และปกป้องบ้านให้พ้นจากสัมภเวสีหรือปิศาจร้ายต่างๆ ซึ่งเจ้าของบ้านอาจจะเคยได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นในบ้าน ตึงตัง ทั้งๆที่ในบ้านไม่มีเด็กอยู่ ซึ่งนั้นก็เป็นฝีมือของวาราชิเขาแหละ
รูปร่างลักษณะ เป็นผู้ชายเรียกว่าวาราชิ แต่งกายแบบชุดยูงาตะ ผูกผมจุก2ข้าง เป็นผู้หญิงเรียกว่าซาซิกิวาราชิ ผมยาว หน้าตาน่ารัก ใส่ชุดกิโมโน
สถานที่ปรากฏตัว สิงสู่อยู่ในบ้านทุกบ้านตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว โดยจะอยู่ใต้หลังคาดูความเป็นไปของคนในบ้าน
สิ่งที่ชอบ เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ
สิ่งที่เกลียด บ้านที่สกปรก บ้านที่เจ้าของบ้านปล่อยปะละเลยไม่ยอมทำความสะอาด
เนโกะมาตะ (ปิศาจแมว) เนโกะมาตะเป็นแมวปิศาจที่มีอายุเกินกว่า100ปี ซึ่งปกติก็เกินกว่าอายุของแมวทั่วไปจะอยู่ถึงถ้าเจอแมวตนใดอายุมากกว่า100ปีก็จะถูกคนญี่ปุ่นหาว่าเป็นเนโกะมาตะไปทันใด ปิศาจตนนี้มักจะปรากฏตัวยามค่ำคืน มันจะย่องตระครุ่มเข้าไปในบ้านของชาวบ้านที่มีคนชราอยู่ แล้วแล้วมันก็จะกินคนชราผู้นั้นอย่างตระกระตระกามแล้วเอากระดูกเขาไปซ่อนไว้ใต้หลังคาบ้านเพื่ออำพราง และแล้วเจ้าผีร้ายตนนี้ก็จะทำการกลายร่างเป็นคนชราที่เพิ่งถูกขย้ำไปแล้วเข้าไปอยู่ในบ้านแทน...
รูปร่างลักษณะ เนโกมาตะมีรูปร่างเหมือนแมวแก่ๆทั่วไป แต่มันมีขนาดใหญ่กว่ามากและมีหางตั้ง 3 หาง และเนโกะมาตะตนใดที่มีอายุทางปิศาจ (คือมากกว่า 100-200 ปีขึ้นไป) จำนวนหางขอเลือด เนื้อ พลังวิญญาณของคนชรา
สิ่งที่เกลียด เครื่องลาง ของขลัง ยันต์
ยุกิอนนะ (เจ้าหญิงหิมะ) เธอเป็นปิศาจสาวสวยผมยาวในชุดกิโมโนสีขาว กับผิวที่ดูสีขาวเผือดราวกับหิมะ ปิศาจตนนี้อาศัยอยู่ในภูเขาหิมะที่มีหิมะตกหนักอยู่ตลอดเวลา และเมื่อมีบุรุษเพศย่างกรายเข้ามาในภูเขา หากเธอพบเห็นเธอก็จะใช้ความงามของเธอเข้ายั่วยวนชายผู้นั้น และเมื่อสบโอกาสเหมาะร่างกายของชายผู้นั้นก็จะถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งจนตาย และแล้วเธอก็เอาวิญญาณนั้นไป มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกัยเจ้าหญิงหิมะ และที่พบมากที่สุดก็คือผู้หญิงสาวสวยอุ้มลูกไว้ในมือซึ่งถ้าใครเผลอไปอุ้มเด็กต่อจากเธอเขาผู้นั้นก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง นอกจากเจ้าหญิงหิมะแล้วก็ยังมี เด็กชายแห่งหิมะ ตาเฒ่าแห่งหิมะ ซึ่งเป็นผีตระกูลเดียวกัน.
รูปร่างลักษณะ เป็นผู้หญิงผมยาวผิวขาวราวกับหิมะ เธอหน้าตาสวยมาก และใส่ชุดกิโมโนขาว
สถานที่ปรากฏตัวในภูเขาหิมะที่มีหิมะตกหนักตลอดเวลา
สิ่งที่ชอบพลังวิญญาณของบุรุษเพศ
ไมคุบิ ( ศรีษะที่ล่องลอย ) ผีตัวนี้เป็นวิญญาณที่มีแต่ความอาฆาตแค้นของซามูไร3คน มักจะโผล่ออกมาเหนือทะเลจังหวัดวาคาสะ มีที่มาอยู่ว่า ซามูไรสามคนได้มีปากเสี่ยงกันอย่างรุนแรงที่ริมทะเลแห่งนี้ เรื่องที่ทะเลาะกันนานไปกลายเป็นเรื่องบาดหมาง ท้ายที่สุดทั้งสามก้ได้ต่อสู้กัน และใช้ดาบฟันคอของทั้งสามคนขาดตายไม่มีใครเหลือรอด ตั้งแต่นั้นมาทุกคืนที่ริมทะเลแห่งนั้นก็จะปรากกหัวของทั้งสามคนลอยหมุนติ้วเป็นวงกลมออกมาและตะโกนด่าทะเลาะกันอย่างเหี้ยมโหด
รูปร่างลักษณะ ตอนแรกๆจะเป็นเหมือนดวงไฟวิญยานหมุนติ้วขึ้นมาเหนือท้องทะเล และกลับกลายเป็นศรีษะของซามูไรทั้งสามที่ตะโกนด่าทะเลาะกัน
สถานที่ปรากฏตัว ทุกคืนเหนือริมทะเลจังหวัดวาคาสะ
สิ่งที่ชอบความโหดเหี้ยมอำมหิต (ชอบด่าทะเลาะกันแม้แต่ตอนตายไปแล้ว)
สิ่งที่เกลียด แสงสว่าง เครื่องลาง ของขลังต่างๆ
กัปปะ (พรายน้ำญี่ปุ่น) กัปปะนั้นเป็นพรายที่อาศัยอยู่ในหนองน้ำ มันจะคอยซุ่มอยู่ใต้น้ำเพื่อรอโอกาศเหมาะที่มีสิ่ลงไปกินในน้ำ ตามบันทึกญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า แต่ก่อนกัปปะเคยเป็นเทพอารักษ์แห่งหนองน้ำมาก่อน แต่นานวันเข้าเมื่อมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันเลยตกชั้นลงมาเป็นแค่ภูติผีตนหนึ่งเท่านั้น และมีอีกสิ่งหนึ่งที่กัปปะชอบกินมากนั้นก็คือ แตงกวา นั้นเอง ชาวบ้านส่วนใหญ่เมื่อต้องประสปพบเจอกับเจ้ากัปปะอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็มักจะเอาแตงกวาสลักชื่อของตนแล้วโยนให้กัปปะ และแทนที่กัปปะจะมุ่งเป้าหมายมาที่เรา มันจะเปลี่ยนไปหยิบแตงกวากินอย่างหิวโหยแทน.
รูปร่างลักษณะ กัปปะนั้นมีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาด ร่างกายมันสีเขียวและผอมแห้งติดกระดูก ที่นิ้วมือนิ้วเท้ามีพังผืด มีจะงอยแข็งๆที่ปาก และมีกระดองเต่าที่หลัง ว่ากันอีกว่าบนหัวของกัปปะนั้นมีอวัยวะบางอย่างที่รุปร่างคล้ายกับจานเพื่อเป็นที่กักเก็บน้ำเลือด ถ้าน้ำเลือดนั้นหมดพลังชีวิตของกัปปะนั้นก็จะอ่อนลงไปด้วย
สถานที่ปรากฏตัวยามดึกสงัดที่หนองน้ำเงียบสงบ มันจะคอยซุ่มดูอยู่ใต้ผิวน้ำ
สิ่งที่ชอบเลือดของสิ่งมีชีวิต แตงกวา
สิ่งที่เกลียด แสงสว่าง เครื่องลาง ของขลัง
ยังไม่หมดคร้าบบ ลดแลกแจกแถมชีวประวัติผีญี่ปุ่น ^^"
การาคาซา ( ผีร่ม )เป็นร่มเก่าๆที่มีอายุเก่าแก่เกิน 100 ปี ที่ถูกไอวิญญาณเข้าสิงอาบมันจนกลายเป็นดวงตากลมโตแสยะยิ้ม มันจะกระพือร่มบินไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่ผีตัวนี้ก็ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด ตรงกันข้ามมันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อีกด้วย นิสัยของมันนั้นเหมือนเด็ก ชอบเล่น ในสมัยโบราณตามวัดร้างมันมักจะปรากฏตัวเพื่อหาเด็กๆที่วัดเป็นเพื่อนเล่นและเล่นสนุกสนานกันในตอนกลางคืน ( ผีตัวนี้เป็นผีชนิดเดียวกับโจจิงโอบาเกะหรือผีโคม )
รูปร่างลักษณะ เป็นร่มคันเก่าๆที่มีดวงตากลมโตดวงเดียวอยู่กลางคันร่ม มีขาข้างเดียว และแลบลิ้นยาว
สถานที่ปรากฏตัว ยามดึกสงัดตามวัดร้างหรือสถานที่ๆเก่า ( อย่างที่พุด ผีตัวนี้ชอบเล่นสนุกสนานเหมือนเด็กๆทั่วไป แต่พูดถึงอาหารการกินก็คือจะเป็นเครื่องเซ่นไหว้แล้วจุดธูปอันเชิญ
โจจิงโอบาเกะ ( ผีโคมไฟ ) ผีตนนี้แต่เดิมเป็นแค่โคมไฟธรรมดาที่มีอายุถึง 100 ปี (สิ่งของต่างๆเมื่อมีอายุมากก็จะเกิดเป็นที่สิงสู่ของวิญญาณได้ง่าย) ซึ่งบังเอิญมีไอปิศาจเข้ามาสิงสู่จนกลายเป็นผีโคม มันจะคอยหลอกหลอนคนเดินทางในที่เปลี่ยวและมืดมิด ผู้ที่เห็นแสงไฟสลัวๆจากโคมของมันส่องสว่างก็จะติดกับเดินตามแสงไฟนั้นไป และแล้วเมื่อสบโอกาสเหมาะมันก็ปรากฏร่างจริงเข้าหลอกหลอนและพาวิญญาณผู้นั้นไป
รุปร่างลักษณะ เป็นโคมไฟเก่าที่ผุๆขาดๆ มีดวงตากลมโตและแลบลิ้นยาของมันชวนให้ดูหลอนๆเมื่ออยู่ในความมืด.
สถานที่ปรากฏตัว พบเห็นได้ตั้งแต่หัวค่ำเป็นต้นไปตามสถานที่รกร้าง ป่ารกทึบ หรือสุสานเก่า.
สิ่งที่ชอบ วิญญาณมนุษย์ (อาจเป็นเพราะต้องการเอาไปเพิ่มพลังปิศาจให้กับตนเอง)
สิ่งที่เกลียดเครื่องลาง ของขลัง ยันต์.
เรื่องภูติผีปิศาจและเรื่องปรากฏการ์ณพิศดารต่างๆนั้น นับเป็นเรื่องที่คอนิยมทั่วโลกยอมรับมาช้านาน ทั้งผีไทย ผีฝรั่ง ผีจีน ต่างก็เป็นตำนานที่เล่าขานถึงความน่ากลัวมาตั้งแต่โบราณ และคราวนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปดูเรื่องราวของผีญี่ปุ่นที่เฝ้าหลอกหลอนผู้คนมาแต่โบราณบ้าง...
ผีญี่ปุ่นแต่โบราณมานั้นมีอยู่ 3 ประเภท คือ
(1) โอบะเกะ Obage = โอบะเกะนั้นแปลตรงๆตามความหมายของมันก็คือผี ปกติจะอยู่ในรูปของกลุ่มไอหมอกประหลาดสีดำที่ล่องลองไปตามท้องถนนยามค่ำคืน ซึ่งเมื่อโอบะเกะนั้นเข้าสิงสิ่งใดไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายร่างเป็นผีไปทันใด (เช่น ถ้าเข้าสิงร่มเก่าๆที่มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ร่มนั้นก็จะถูกกลุ่มไอปิศาจอาบมันจนกลายเป็นดวงตาใหญ่โตแสยะยิ้ม หรือที่คนโบราณเรียกว่าผีร่ม) ส่วนเวลาปรากฏตัวของโอบะเกะนั้นส่วนมากจะเป็นตอนกลางคืน มันจะล่องลอยไปในท้องถนนยามค่ำคืนและพยายามหาร่างสิงสู่ของมันนั้นเอง... วันดีคืนดีชาวบ้านมักจะพบเกวียนเก่าที่ไม่มีคนขับวิ่งไปตามท้องถนนนั้นก็คือที่สิ่งสู่ของวิญญาณร้ายตนนี่
(2).โยวไก youkai = โยวไกนี้เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเหล่าบรรดาภูติ ผี ปิศาจ ปอบ เปรต และอสุรกายที่มีมาแต่ช้านาน ซึ่งแหล่งที่อยู่เดิมของเหล่าผีพวกนี้คือนรก พวกมันตะเกียกตะกายขึ้นมาจากขุมนรกที่แสนทรมัวเล่า เวลาปรากฏตัวของเหล่าโยวไกนั้นจะเริ่มตั้งแต่ยามโพล้เพล้เป็นต้นไป(ช่วงที่ใล้ค่ำแล้วท้องฟ้าจะเป็นสีแดง) ชาวบ้านมักจะพูดเสมอว่าเวลานี้เป็นเวลาผีออกหากิน ซึ่งเหล่าโยวไกนี้มีมากกว่า 1,000 ชนิด มีบันทึกเรื่องราวพิศดารนี้อยู่ตามบันทึกญี่ปุ่น เหล่าโยวไกนั้นมีมากหลาย ยกตัวอย่างพวกผีที่ดังๆได้แก่ กัปปะ(พรายน้ำ) โรคุโรคุบิ(ผีคอยาว) เท็งคุ(พรายภูเขา) ยูกิอนนะ(เจ้าหญิงหิมะ) คาไมทาจิ(3พรายแห่งลม) จิกินินกิ(เปรตกินศพ) คิสุเนะ(ปิศาจจิ้งจอก) มุจินะ(ผีไร้หน้า) และอื่นอีกมากมาย...
(3). ยูเร yurea = ยูเรนี้เป็นวิญญาณคนที่ตายไปโดยไม่ทันได้ดับจิต ด้วยความพยาบาทของดวงวิญญาณเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ มีเรื่องราววิญญาณหญิงสาวที่โผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำเก่าเล่าขานมากมาย สร้างความหวาดผวาไปทั่ว ยูเรนั้นมีอยู่ทั่วทุกแห่งไม่ว่าตามสนามรบเก่าซึ่งยูเราเหล่านั้นจะเป็นชายชาตินักรบที่ตายอย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งวันดีคืนดีผู้คนที่เดินทางผ่านก็จะพบเห็นเหล่ากองทัพผีซามูไรพุ่งรบกันอย่างไม่รู้แพ้ชนะ ตามท้องถนนทั่วไปก็คือยูเรที่ตายในอุบัติเหตุทำนองผีตายโหง และเหล่าสัมภเวสีต่างที่ล่องลอยไปตามที่ต่างๆรอวันผุดเกิด เวลาเหมาะที่ยูเรจะปรากฏตัวนั้นคือหลังเที่ยงคืนแต่ยูเรบางตนก็สามารถปรากฏตัวลางๆได้ในกลางวัน และยูเรส่วนใหญ่นั้นเป็นหญิงเพราะผู้หญิงนั้นมีความอาฆาตพยาบาทที่น่ากลัวจริงๆ
เรื่องราวที่ผมเล่ามา ผมได้ศึกษามาแล้วอถ้วนถี่เพราะผมก็เป็นผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน และได้ศึกษาเรื่องราวเหนือธรรมชาติมามาก(เสียดายที่ผมโพสรูปไม่เป็น ไม่งั้นจะโพสภาพผีแต่ละตนมาอย่างครบทุกตัวซึ่งผมก็มีภาพเหล่านั้นเก็บไว้อยู่แล้ว ท่านใดที่ช่วยชี้แนะก็โปรดบอกมาได้)และผมขอบอกไว้ว่านี่เป็นเพียงข้อมูลให้ความรู้เท่านั้น ซึ่งเรื่องสยองขวัญที่แท้จริงผมจะมาเขียนเล่าเรื่องราวของผีแต่ละประเภทแต่ละตนอย่างถ้วนถี่ ติดตามอ่านได้เร็วๆนี้..... แล้วพบกัน By...