The Circle of Spirits

กฏของการต่อสู้
การฝึกฝนจะสอนกฏบางอย่างให้เรา ซึ่งผมรวบรวมไว้ตรงนี้ แต่จุดสำคัญก็คือ อย่าแค่ทำความเข้าใจ หรือแค่จำ เพราะมันไร้ประโยชน์ เราควรจะฝึกๆๆถึงจะทำได้จริง

1/. อย่าถอยหลัง.
เวลาถูกโจมตี อย่าทำอย่างที่มวยแข็งหลายๆสำนักสอน คือ ถอยพร้อมกับยกแขนป้องกัน ทำแบบนั้นเท่ากับหาเรื่องแพ้เท่านั้น! นักสู้และนักเลงทุกคนที่โจมตีเราจะเคลื่อนไหวโดยคาดว่าเราจะอยู่กับที่(ทำอะไรไม่ถูก) หรือถอยไปข้างหลังอยู่แล้ว ถ้าเราถอยหลัง(หรือ..แน่นอน อยู่กับที่) ก็เป็นอันเข้าทางเขาล่ะครับ ตรงข้ามถ้าเราพุ่งเข้าหา จะทำให้ระยะและจังหวะทุกอย่างของคู่ต่อสู้ผิดหมด จังหวะของการต่อสู้ในเสี้ยววินาทีนั้นจะตกเป็นของเราทันที นักสู้ส่วนใหญ่(โดยเฉพาะนักเลง)ต่อสู้โดยอาศัยสัญชาติญานที่สั่งสมมานาน แล้วถ้าอยู่ดีๆสถานการณ์ผิดไปจากที่เคยเจอ เขาก็จะรับมือยากมาก ซึ่งกว่าเขาจะปรับกลยุทธ์ทัน เราก็มีเวลาพอที่จะสอยเขาลงได้แล้ว

บ่อยครั้งที่เราฝึกเทคนิคหรือฝึกพื้นฐาน แบบฝึกมักจะให้เรายืนอยู่กับที่ เพราะว่าต้องการให้ฝึกเคลื่อนไหวในท่านั้นๆอย่างถูกต้องในช่วงแรกๆ หลังจากที่เราคุ้นเคยแล้ว เราควรจะฝึกเคลื่อนไหวพร้อมกับเคลื่อนที่เข้าหาคู่ต่อสู้ด้วย

นอกจากเหตุผลทางกายภาพ(จังหวะฯลฯ)แล้ว ยังมีอีกเหตุผลที่เป็นเรื่องภายใน นั่นก็คือเรื่องของจิตใต้สำนึก ซึ่งการทำงานของจิตใต้สำนึกจะรับผลกระทบจากหลายๆสิ่งหลายๆอย่างมาก(หากสนใจเรื่องมวยภายในและชี่กง ควรจะศึกษาเรื่องจิตใต้สำนึกครับ) จิตใต้สำนึกของเราจะทานอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหลายๆอย่าง ซึ่งบางทีเราไม่รู้ตัว เช่น สีของชุดที่เราใส่ ข้อความที่เราตั้งเป็นชื่อใน MSN ภาษาที่เราใช้ในการพูด หนังที่เราชอบดู หรือโฆษณาที่เราเห็นโดยไม่ได้ใส่ใจ ฯลฯ พวกนี้มีผลต่อจิตใต้สำนึกและมีผลต่อชีวิตเราอย่างที่เราไม่รู้ตัว (ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สามารถแยกศึกษาออกมาได้เป็นอีกวิชาหนึ่งเรียกว่า NLP ครับ) และในการต่อสู้ การเดินถอยหลังจะทำให้สารเคมีในร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัวอีก คือสมองและร่างกายเราจะเข้าใจว่าเรากำลังจะหนี สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือร่างกายเราจะลดพลังในการต่อสู้ลงเพื่อเพิ่มพลังในการหนีแทน สิ่งนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติโดยไม่เกี่ยวว่าคุณจะสู้ จะถอยเพื่อตั้งหลักสู้ หรืออะไร มันก็จะลดพลังในการต่อสู้ลงอยู่ดี และถ้าคุณสู้ในโหมดนี้ล่ะก็ คุณลำบากหน่อยล่ะ!
ในทางตรงข้าม เมื่อเราก้าวเข้าไปหาคู่ต่อสู้ จิตใต้สำนึกจะปรับร่างกายให้เป็นโหมดสู้ คือลดพลังในการหนี แต่เพิ่มพลังทำลาย เพิ่มความไวของประสาทโต้ตอบ แม้แต่ท่าป้องกันยังมีอานุภาพมากขึ้นในโหมดนี้ ฯลฯ นี่คือเรื่องที่นอกเหนือเรื่องทางกายภาพ นี่คือ(ส่วนหนึ่ง)ของสิ่งที่เรียกว่า กำลังภายใน

(...มีต่อ)