The Circle of Spirits

เมื่อกี้ดูเฟียเลส ทางช่อง 7 แล้วประทับใจ(จิง ๆ ดูDVDมาหลายรอบและ) เลยอยากเอาเรื่องของสุดยอดครูมวยคนนี้มาเล่าให้ฟัง (เคยอ่านเมื่อครั้งนึงนานมาแล้วจำที่มีไม่ได้)

เรื่องที่ผมอ่านมา กับในหนังต่างกันพอดูนะครับก็อ่านแบบรู้ไว้เฉย ๆ แล้วกัน

เริ่มจากเพลงหมัดตระกูลฮั่ว

เพลงหมัดนี้เป็นวิชายุทธ ที่รวมมาจากหลายวิชา และสร้างออกมาในแบบของตัวเอง จีนในสมัยก่อน วิชาต่อสู้ เมื่อร่ำวิชาแล้ว จะมีการดัดแปลง หรือสร้างใหม่ เป็นวิชาสไตร์ตัวเองเป็นเรื่องปรกติเช่นหมัดไทจี้ฉวน ก็มีตระกูลหยาง ตระกูลอู๋ ตรำกูลเฉิน ฯลฯ หมัดตระกูลฮั่วเองก็เช่นกัน

หมัดตระกูลฮั่ว เป็นหมัดที่รวดเร็วหนักหน่วง และคม การเคลื่อนไหว นิ่มและเบาเหมือนแมว แต่โจมตีรวดเร็วจนมองไม่ทัน ผู้ที่สู้กับเพลงหมัดนี้ จะถูกโจมตีล้มลง โดยที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าโดนอะไร(เค้าว่างั้น)

พอฮั่วเอิ่นตี้เป็นเปาเปียว(คนคุ้มกันสินค้า) พอแก่ตัว ก็ถอนตัวจากอาชีพเปาเปียว ไปทำไร่ไถนา ยามว่าง ก็สอนหมัดมวยลูกหลาน สอนหนังสื่อ สอนอะไรไปตามเรื่องตามราว

ฮั่วหยวนเจี่ย มีพี่น้อง 10 คน ทุกคนต่างฝีมือเป็นเลิศ ถูกเรียกขานว่า 10 พี่น้อง ตระกูลฮั่ว (อย่าถามว่าชื่ออะไร จำไม่ได้) ใน 10 คน พ่อไม่ได้รักหยวนเจี่ยที่สุดนะครับ หยวนเจี่ย ก็ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่สุด ในวัยเด็ก หยวนเจี่ยเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดอีกต่างหาก ใน 10 คนมีน้องหยวนเจี่ยคนนึง มีพรสวรรค์สูงมาก ครบ 4 เรื่องเลย เป็นจอมยุทธของแท้ *** 4 ด้านคือ ดนตรี อักษร โครงกลอน และหมัดมวย

เข้าเรื่องฮั่วหยวนเจี่ยละนะครับ

ฮั่วหยวนเจี่ย ในสมัยเด็ก ๆ มีสุขภาพไม่แข็งแรง(ในหนังก็บอกไว้) ร่างกาย เล็กกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน มักจะถูกคนอื่นกลั่นแกล้งเสมอ ๆ

ตอนเด็ก ๆ เอิ่นตี้ สั่งห้ามหยวนเจี่ยฝึกเพลงมวย เพราะเกรงจะเสียชื่อ หากหยวนเจี่ยเอาไปมีเรื่องแล้วแพ้ฟังดูแห็นแก่ตัวตัวแต่ก็ต้องเห็นใจนะครับ ว่า เค้าเป็นตระกูลชาวยุทธ ที่มีชื่อเสียงมาหลายรุ่น เอิ่นตี้ จะสอนเพลงยุทธให้ลูกทั้ง 9 โดยสั่งให้หยวนเจี่ย อ่านหนังสืออยู่บ้าน (แต่ใครจะรู้ ว่าหยวนเจี่ย แอบขโมยฝึกวิชาอยู่ตลอดเวลา)

และแล้ววันนึง(หยวนเจียอายุ 21มั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ) ความแคนสมัยหนุ่ม ๆ ของพ่อ ก็ย้อนรอยกลับมา(แก้แค้น 10ปียังไม่สายจริง ๆ - -)เรื่องคือ มีชายคนนึง รูปร่างสูงใหญ่ น่าเกรงขามมาท้าประลองกับเอิ่นตี้ เพื่อล้างอาย ที่ถูกเอิ่นตี้พิชิต(เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว) เอิ่นตี่พยายามรอมชอม เพื่อจะได้ไม่ต้องสู้ เพราะตัวเองก็แก่มากแล้ว ลูกก็ยังเล็ก เมียก็ยังเด็ก(อันนี้ล้อเล่น^^)

แต่ชายผู้นั้นยืนยัน ว่า หากท่านเกรงงั้นเราประลองกันด้วยหมัดมวยแทนศาสตราแล้วก็โยนดาบลงพื้น แล้วตรงดิ่งเข้าไปหมายจะชกเอิ่นตี้ ลูกของเอิ่นตี้ เข้ามาขวางใช้มือรับหมัดแล้วสวนกลับสไตร์หนังบรู๊ซลีเอิ่นตี้จนใจ เลยยอมให้ลูกประลองกับชายร่างยักษ์แต่แล้ว ลูก ของเอิ่นตี้ คนแล้วคนเล่า ถูกยักษ์ล้ม(ไม่ได้ล้มยักษ์)

เอิ่นตี้เริ่มสยอง ปนความสิ้นหวังว่าเพลงหมัดสกุลฮั่ว ที่สืบทอดมา 7 ชั่วคน ต้องมาสิ้นชื่อลงตรงนี้หรือ โอ้วสวรรค์ ใยให้ข้ามาเกิดแล้ว ต้องส่งยักษ์มาเกิดด้วย (555รู้ใช่ม่ะว่าผมเล่นมุกอะไร)

ขณะที่เอินตี้กำลังกระอักเลือดเพราะเครียดแบบจิวยี่ ลูก ๆ ก็แพ้รวดไปแล้ว เอิ่นตี้เห็นท่าไม่ดี ไอ้คลั้นจะหยิบอาก้ามายิง ยุคนั้นก็ยังไม่ผลิตซะด้วย เลยทำใช้เคล็ดลับวิชา ในตำรา ข้อที่ 1 คือทำใจให้สงบ รวบรวมลมปราญให้ดี ตอนกำลังจะขึ้นข้อ2 พูดดีทำดี หยวนเจี่ยก็เข้ามาแจมคอนเสิร์ทพอดี

ผลคือ ฮั่วหยวนเจี่ย ใช้วิชาหมัดตระกูลฮั่ว อีโวลูชั่น คือแกแอบลักลอบฝึก เลยมีบางอย่าง ที่ดัดแปลง และที่สำคัญ มีประสิทธิภาพสูงกว่าหมัดดั้งเดิม สยบยักษ์ลงได้ ทำให้เอิ่นตี้ ลืมจิวยี่ไปเลย หันมาเครียดว่าไหงลูกตูไม่เป็นมวย ใมมันเก่งกว่าตูฟะ ก็ได้คำตอบว่า หยวนเจี่ย จะแอบดู แอบฟัง แอบทำตาม แล้วเอามาฝึกตอนดึกสงัด อยู่คนเดียว ส่วนวิชา ที่มีหลายส่วนแปลกออกไป เพราะหยวนเจี่ย ก็เอาวิชาอื่นมาผสม เป็นนวัตกรรม มิกซ์&แมต

เวลาผ่านไป หยวนเจี่ย ทำงานเป็นคนขายฟืนแถมฟืนเป็นฟืนคุณภาพดี ทั้งแน่น ทั้งหนัก เป็นแอ๊บโดมิไนเซอรทรัค 073 รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หาซื้อได้ที่ฮั่วหยวนเจี่ยเจ้าเดียว การแบกฟืนหนัก ๆ ทำให้พลังกายของฮั่วหยวนเจี่ยเพิ่มพูนขึ้น อันที่จริง มีเบื่องหลังน่ะ คือตอนนี้ ฮั่วหยวนเจี่ย มีลูก มีเมียแล้ว ต้องหาเลี้ยง ลูกก็โตขึ้นทุกวัน ปัญหาหลักมนุษยชาติ ยุคใหน ๆ ก็ไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ

แต่ด้วยร่างกายอันกำยำ เพลงหมัดที่ล้ำเลิศ หยวนเจี่ย จึงมักปราบอัลธพาล ที่มารีดไถค่าคุ้มคลองบ่อย ๆ วีรกรรมก็ไปเข้าตาท่านเศรษฐีคิเคียวยะ(จำชื่อม่ะได้ เอาคิเคียวยะของอิคคิวซังมาใช้นิดนึงแล้วกัน 555) ท่านเศรษฐี จึงจัดเลี้ยง ต้อนรับโดยหวังจะชวนมาเป็นเปาเปียว

ด้วยวรยุทธของหยวนเจี่ย ทำให้ธุรกิจรีดไถของแก๊งอัลธพาลทรุดหนัก รีดไม่เรียบไถไม่เข้า สร้างความไม่พอใจให้แก๊งส์เตอร์ทั้งหลาย หยวนเจี่ยเห็นท่าไม่ดี กัวโดนคนดำอุ้ม เลยบอกลาอาชีพนี้ดีกว่าแล้วก็ทำการย้ายสัมโนประชากรมาอยู่ที่เทียนจินพนักงานขนของร้านขายยา หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ คงคิดเหมือนผมว่า มันมายุ่งกะยา แล้วเป็นจอมยุทธด้วย เหมือนหวงเฟยหงวะ 555 ยืนยันครับ ว่าคนละคน กะหวงเฟยหง ไว้ถ้าขยันเมื่อไหล่ จะเล่าเรื่องหวงเฟยหงให้ฟังด้วย

เถ้าแก่ร้านขายยา ก็คือหลงจิ้งซน เพื่อนของหยวนเจี่ยในหนังนั่นแหละ (ในหนัง เต้าเปิดโรงเตี๊ยม) หลงจิ้งซุน เป็นนักเรียนนอก หัวสมัยใหม่ และเป็นแฟนการเมืองตัวยงของดร.ซุนยัดเซน และมักเป่าหู อ้ย เล่าเรื่องการเมืองให้หยวนเจี่ยฟัง เรื่องความเป็นไปของโลก เรื่องต่าง ๆ รวมทั้งด่ารัฐบาลก่อวอท ก่อม๊อป( ไม่มีม๊อปคับ มันปากไปนิด)

วันนึง ลูกศิษย์ของหวนเจี่ย เอาใบปริวมาให้ดู เป็นใบปริว ด่าชาวจีนของฝรั่ง ประมาณว่า จอมพลังรัสเซียมาโชว์ให้ชาวขี้โรคแห่งเอเซียได้ดูเป็นขวัญตา ถ้ามีปัญหา ต่อยกันได้

หยวนเจี่ยเลยฉุนขาด ตรงดิ่งไปหาจิ่งซุน หลงจิ้นซุนเล่าว่า รู้เรื่องแล้ว มีคนไปต่อยกะยักษ์ตัวนี้หลายคนและ ศพไม่สวยสักคน หยวนเจี่ยเลยบอก อยากเห็นมันแพ้ป่ะ เดี๋ยวจัดให้แล้วก็ตรงดิ่งไปที่เต้นกลางเมืองของยักษ์รัสเซียข้าวของเก็บอยู่ในลังไม้หยวนเจี่ยเหลือบก็เห็นไอ้บ้ากล้ามตัวนึง กาลังบ้าพาว ยกดำเบลขนาดใหญ่อยู่ มนุษย์บ้ากล้ามเห็น เลยถามว่ามาใม มีอะไรเหรอ หวนเจี่ยก็บอกว่า มารับคำท้า ประลองกันให้ตายกันไปข้าง ยักษ์ก็งงดิไรวะ อยู่ดี ๆ จะมาชวนตาย เลยถามกลับไปว่า ชื่อไร ฝึกวิชาไรมาป่าว บ้าป่าวอยู่ ๆ มาชวนสู้จนตาย หวนเจี่ยตอบว่า ชื่อฮั่วหวนเจี่ย ไม่เป็นวิชาอะไร(โคตรเอาเปรียบเลย ไม่บอกความจริง) แต่จะไม่ยอมให้ฝรั่งดูถูก ยักษ์บ้ากล้ามเลยชี้ไปที่เหล็กเส้นโตที่ถูกงอม้วนต้วน แล้วบอกว่า เมื่อกี้เพิ่งม้วนเล่น คุณคิดว่ากระดูคุณแข็งกว่าเหล็กนั่นหรือปล่าวล่ะ หยวนเจี่ย เลยโชว์ความบ้าพลังมั่ง ด้วยการคว้าเหล็ที่ถูกงอม้วน มายืดเป็นเส้นตรง (รู้สึกจะบ้าพลังกว่านะ) แล้วก็ท้าต่อยกะยักษ์ว่าเจอกันพรุ่งนี้ แล้วก็จากไปทิ้งให้ฝรั่งงง ไรวะเนี่ย ไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าพรุ่งนี้ติดไรป่าว

วันรุ่งขึ้น หวนเจี่ยไปตามนัด(ข้างเดียว) ที่เต้นมีกระดาษแปะว่า โดนเรียกตัวกลับรัสเซียด่วน ไว้กลับมาจะมาประลอง ชาวจีนเลยเหมาเอาว่า ชนะแล้ว 5555

หวนเจี่ย เลยกลายเป็นผู้กู้หน้าให้ชาวจีนไปโดยปริยาย

คราวนี้มาถึงเรื่องการประลองไคลแม๊กซ์ของหยวนเจี่ย เรื่องคือ ตอนนั้นกองทัพเรือจีน แพ้การสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นเลยค่อนข้างจะเสียงดังพูดไร ก็ได้ไปหมด (ก็คนชนะนี่) หลายวันต่อมาหยวเจี่ย ได้รับจดหมาย เขียนว่าพระจักพรรดิ์ส่งนักสู้มาจีน กองทัพเรือ เลยอยากจะเชิญ ท่านไปประลองกับยอดฝีมือญี่ปุ่น หยวนเจี่ยอ่านถึงตรงนี้เลือดก็ทะลักออกจากปาก แล้วก็เป็นลมล้มพับไป

หลังจากนั้น3วัน หยวนเจี่ยฟื้น(กว่าจะฟื้น) ก็ให้ลูกศิษย์ไปแจ้งข่าวว่า นัดวันมา ตามสะดวก จิ้งซุนเป็นห่วงอาการเพื่อนเลยท้วง แต่ไม่เป็นผล หยวเจี่ยบอกว่า กองทัพเรือแพ้ เค้าจะกู้หน้า แล้วข่าวก็แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

วันประลอง หยวนเจี่ยใส่เสื้อยืดรัดรูป ชุดแบบเดียวกะไอ้หนุ่มซินตึ้ง (จริง ๆ ไอ้หนุ่มซินตึ้งเลียนแบบฮั่วหยวนเจี่ย) พอได้เวลาขึ้นเวที ก็เห็นคนญี่ปุ่น เดินขึ้นมา ดาบขึ้นมาด้วยแล้วเค้าก็บอกหยวนเจี่ยว่า เชิญเลือกอาวุธ หยวนเจี่ยบอกว่า ม่ะเอา ตูต่อยด้วยหมัดลุ่น ๆนักรบญี่ปุ่นเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมัดมวยกะเค้า

ทั้งคู้ สู้กันอยู่พักใหญ่ ผลคือ หยวนเจี่ย ชนะ (ไม่ได้ตายคาเวทีเหมือนในหนัง)